การมีเกียรติประวัติผลงานที่ดีในอดีตนั้น ถือเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อย่างได้ อยากมี ไม่เว้นแม้แต่ในวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หากแต่ผลงานในดีมากในอดีตก็อาจย้อนกลับมาสร้างแรงกดดันอันน่ากลัวให้กับทีมฟุตบอลเช่นเดียวกัน เหมือนอย่างกรณีทีม หงส์แดงลิเวอร์พูล ที่ในฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา เพราะหลังจากทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อนหน้าได้สำเร็จ ลิเวอร์พูลก็สร้างผลงานชนะติดต่อกันรวดหลายนัดในฤดูกาล 2019-2020 จนนำยาวตั้งแต่ต้น ยันไปจบฤดูกาลแข่งขัน ทีมฟุตบอลทีมอื่นไม่มีจังหวะให้ลุ้นว่าจะทำคะแนนตามได้ทันเลยแม้แต่ทีมเดียว
แรงกดดันกับผลงาน หงส์แดงลิเวอร์พูล ฤดูกาลล่าสุด

ในฤดูกาล 2020-2021 ถือเป็นฤดูกาลที่สร้างแรงกดดันให้กับลิเวอร์พูลมาก เพราะจากการที่พวกเขาทำผลงานได้ดีในฤดูกาลที่แล้วมากเสียแบบนั้น มันจึงถูกคาดหวังจากคนในวงการและแฟนบอลว่าลิเวอร์พูลจะสามารถป้องกันแชมป์ฤดูกาล 2020-2021 ได้อีกครั้ง หากแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดังคาดหวัง เพราะลิเวอร์พูลไม่สามารถนำยาวได้เหมือนเดิม จากอาการบาดเจ็บของนักเตะของทีมที่เริ่มทยอยแสดงอาการออกมา ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุการปะทะกันในสนาม และอาการเจ็บเรื่อรังมานาน

นักเตะใหม่ที่ดึงเข้ามาอย่าง ติอาโก้ อาคัลทาร่า ก็ยังไม่สามารถปรับตัวกับทีมใหม่ได้เข้าที่เข้าทาง โดยปัจจุบันพวกเขาแข่งไป 22 นัด ชนะ 11 เสมอ 7 แพ้ 4 คะแนนรวม 40 คะแนน รั้ง อันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีก ( 4 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 12.00 น.) หากแต่อันดับ 1 ตกเป็นของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคะแนนรวม 47 คะแนน อันดับ 2 เป็นของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คะแนนรวม 44 คะแนน และอันดับ 3 เป็นของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ มีคะแนน 42 คะแนน และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้มีนักวิเคราะห์ต่างมองว่าเพราการเสมอติดต่อกันมากถึง 7 นัดที่ผ่านมานั้นละ เป็นการฉุดรั้งคะแนนของลิเวอร์พูลให้ตกมายังอันดับ 4

แถมแพ้ค่าบ้านมานัดหลังสุดที่เจอไบรท์ตัน และเมื่อมองจากคะแนนรวมของอันดับ 1 อย่างเรือใบสีฟ้าที่นำลิเวอร์พูลมากถึง 7 คะแนน ด้วยกัน และผลงานโดยรวมของทีมพวกเขาในตอนนี้ ลิเวอร์พูลไม่น่าจะทำคะแนนตามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทันแน่นอน อย่างไรก็ตาม ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ยังมีอีกหลายนัดการแข่งขันให้ลิเวอร์พูลเก็บไล่ตามหัวตารางต่อไป