แม้ว่าบรรดาแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างพากันดีใจชนิดที่ว่าบ้าคลั่งไปเลยก็ได้จากการที่เปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ดเบียดคว่ำคู่กัดตลอดกาลและแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูลลงไปได้อย่างระทึกขวัญ 3-2 ในเกมเอฟเอ คัพรอบ 4 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564 แต่ว่าปีศาจแดงก็เสียหายไม่น้อยเมื่อต้องสังเวยชัยชนะในเกมสำคัญนี้ไปด้วยการได้รับบาดเจ็บของมาร์คัส แรชฟอร์ด
เกมแดงเดือดสมชื่อทำ แรชฟอร์ด เจ็บเซ่นเกม
เกมแดงเดือดเวอร์ชั่นเอฟเอ คัพมันจัดประหลัดบอกเลยทีเดียวเมื่อผลัดกันนำและตามตีเสมอ โดยโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซุปตาร์ทีมชาติอียิปต์ ซัลโวให้ลิเวอร์พูลบุกไปขึ้นนำ 1-0 แต่แมนฯยูฯก็ตามตีเสมอพร้อมกับพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากการพังประตูของแรชฟอร์ด แม้ว่าซาลาห์จะเหมาลูกที่สองในเกมนี้ไล่ตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 2-2 แต่เจ้าบ้านก็ส่งทีเด็ดอย่างบรูโน่ แฟร์นันด์สลงมาในข่วงท้ายเกม และขวัญใจแฟนปีศาจแดงก็ไม่ทำให้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาและบรรดาเหล่าสาวกอสูตรแดงต้องผิดหวัง โดยเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโปรตุเกสพังประตูชัยให้เจ้าบ้านได้ในนาทีที่ 78 จากการบรรจงปั่นฟรีคิกเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงาม
อย่างไรก็ดีเกมดังกล่าวแรชฟอร์ดต้องถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 4 นาทีแล้วส่งหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสอย่างอองโตนี่ มาร์กซิยาลลงไปทำหน้าที่แทน และก็มีข่าวร้ายมาให้ปีศาจแดงต้องตามลุ้นกันอีกครั้งหลังจากแรชฟอร์ดนั้นมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และต้องรอดูอาการอย่างแน่ชัดด้วยการเข้าสแกนเช็กอาการเจ็บอย่างละเอียดอีกที่วันวันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564
แรชฟอร์ดจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในขุนพลคนสำคัญของแมนฯยูฯ หลังจากสามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังเสริมทีเด็ดด้วยการแอสซิสต์สวย ๆ ให้เพื่อนร่วมทีมทุ้งตาข่ายได้เป็นประจำ ดังนั้นหากต้องขาดแรชฟอร์ดไปก็คงส่งผลกระทบต่อผีแดงไม่น้อยเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้นบรรดาสาวกปีศาจแดงทั่วทุกมุมโลกคงต้องพากันภาวนาว่าอย่าให้แรชฟอร์ดต้องเจ็บหนักเลย เนื่องจากตอนนี้ผีแดงรั้งจ่าฝูงและมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังหมดยุคทองของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ว่าลูกทีมของโซลชาก็คงจะมัวแต่ชะล่าใจไม่ได้อย่างเด็ดขาดเพราะอาจเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้กับอริร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ครองรองจ่าฝูงตามหลังเพียง 2 แต้มแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด
