ไทยลีก จากที่โดนมองว่าจะเป็นทีมที่แจกแต้มให้กับเพื่อนร่วมกลุ่ม เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ 1 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตัวแทนสโมสรไทยเพียงหนึ่งเดียวในเวทีเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก สามารถหักปากกาเซียนทั้งหลายได้อย่างน่าประทับใจ
เพราะว่าสองเกมแรกในการลงเล่น ทั้งออกไปเยือนเมลเบิร์น วิคตอรี่ที่ออสเตรเลียแล้วแพ้มา 1-0 และเกมเปิดบ้านที่ยูไนเต็ด สเตเดี่ยมเชียงราย แพ้ให้ปักกิ่ง กั๋วอันอีก 1-0 เท่ากับว่าสองนัดไม่มีแต้มและยิงใครไม่ได้
พอกลับมาแข่งขันต่อหลังจากเลื่อนไปเพราะการระบาดของโควิด-19 ปรากฎว่าเกมแรกที่สนามประเทศเจ้าภาพกาต้าร์ เชียงราย ยูไนเต็ดโดนเอฟซี โซลยิงยับไป 5-0 ทำให้ทุกคำสบประมาทว่ายังอ่อนเกินกว่าจะแข่งรายการระดับเอเชียได้ และเป็นไปตามที่
บรรดานักวิจารณ์ว่าไว้ว่าตัวแทน ไทยลีก คงไม่ชนะใครในรายการนี้

ที่ไหนได้เชียงรายกลับพลิกชนะเอฟซี โซลในนัดที่ 4 เก็บสามแต้มประวัติศาสตร์ให้ตัวเอง พร้อมทั้งมีคะแนนเพิ่มให้กับสัมประสิทธิ์ทีมจากลีกไทย จากนั้นก็ยังมาไล่ตามตีเสมอเมลเบิร์น วิคตอรี่ 2-2 ได้อีก ทำให้แต้มสัมประสิทธิ์ของทีมจากลีกออสเตรเลียจะไม่ลดช่องว่างที่ นำอยู่
ยิ่งทั้งเพิร์ธ กลอรี่ และซิดนี่ย์ เอฟซี อีกสองตัวแทนจากเอ ลีกของประเทศออสเตรเลียต่างทำผลงานได้ย่ำแย่ในรอบสุดท้ายนี้ โดยจมอยู่ในอันดับท้ายสุดของกลุ่ม ยิ่งทำให้คะแนนของทั้งลีกติดลบเพิ่มมากขึ้นไปอีก

และในฤดูกาลหน้าของเกมฟุตบอลถ้วยระดับสโมสรของเอเชียจะมีตัวแทน เข้าร่วมถึง 4 สโมสร ที่การันตีแล้วก็คือบีจี ปทุมกับการท่าเรือ ซึ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก มีความแข็งแกร่งและความเข้าใจในการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่มากขึ้น จนแม้แต่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างก็ประเมินว่า ตัวแทน ไทยลีก จะเป็นทีมที่สร้างความลำบากให้กับตัวแทนประเทศตนกันแล้ว
การที่เชียงราย ยูไนเต็ด ตัวแทนสโมสร สามารถเก็บได้ทั้งชัยชนะและผลเสมอ มันส่งผลให้พัฒนาการของบอลไทยเดินต่อไปได้อีก เพราะทุกปีผลงานในการเล่นฟุตบอลระดับเอเชียของบรรดาสโมสรแต่ละชาติจะถูกนำมาพิจารณาสำหรับการให้โควตารายการใหญ่และเล็ก ซึ่งจากที่เคยมีโควตาเพียงทีมเดียวเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ค่อยๆ ขยับเป็น 1+1 อยู่อีกหลายปี แต่เพราะเป็นหนึ่งทีมแชมป์กับหนึ่งทีมแชมป์ไทย เอฟ เอ คัพ ทำให้ผลคะแนนในระดับเอเชียกว่าจะได้มายากลำบากมาก แต่ระหว่างนั้นตัวแทนสโมสร ซึ่งหลักๆ เป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ทำหน้าที่อย่างดี โดยเฉพาะในปีที่ทะลุถึงรอบน็อคเอ้าท์ มันทำให้คะแนนภาพรวมของสโมสรฟุตบอลไทยเพิ่มขึ้น จนลือกันว่าจะขยับโควตาเป็น 2+1

สุดท้ายกลายเป็นว่าเอเอฟซีประกาศให้ ได้สิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น 2+2 กันเลย ซึ่งเป็นก้าวกระโดดที่สูงมาก และส่งผลให้สโมสร ตื่นตัวเกี่ยวกับโครงสร้างและรูปแบบการเล่นครั้งใหญ่เพราะทุกทีมต่างมีโอกาสมากขึ้น ซึ่งผลของการทำผลงานดีๆ ในเวทีสโมสรเอเชียคือเครื่องมือสำคัญ ในการพัฒนาลีกอาชีพไทยให้เป็นลีกที่ดีขึ้นไปทัดเทียมกับเจ ลีก, เค ลีกและไชนีส ซุปเปอร์ลีกที่นำหน้าอยู่ให้ได้.