คอบอลอังกฤษทั้งหลายขอให้อดใจรอกันอีกไม่นานเกม พรีเมียร์ลีก บางสนามจะอนุญาตให้แฟนบอลเข้าไปชมได้บางส่วนแล้ว หลังจากที่แฟนบอลเมืองผู้ดีต่างพากันโหยหาที่จะเข้าไปเชียร์ทีมรักในสนามเกมพรีเมียร์ลีกเหมือนดังเคย ๆ แต่ก็ต้องโดนสั่งห้ามจากภัยของเจ้าวายร้ายไวรัสโควิด-19 ที่เล่นงานกันจนอ่วมกันไปทั่วโลกเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้แฟนบอล พรีเมียร์ลีก ได้แต่เฝ้าเอาใจช่วยทีมโปรดผ่านหน้าจอทีวีเพียงเท่านั้น

แต่ในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไปจะเริ่มให้แฟนบอลเข้าไปชมศึกพรีเมียร์ลีกได้บางสนาม หลังจากทางรัฐบาลอังกฤษเปิดไฟเขียวคลายล็อกดาวน์ลงบางส่วน แต่ก็ใช่ว่าแฟนบอลพรีเมียร์ลีกทุกสโมสรจะเข้าไปเชียร์ทีมรักได้หมด โดยจะอนุญาตให้คอกีฬาได้เข้าชมเกมการแข่งขันที่เป็นกลางแจ้งได้ร้อยละ 50 แต่สูงสุดไม่เกิน 4,000 คน ทางด้านกีฬาที่มีการจัดการแข่งขันในร่มได้ไฟเขียวร้อยละ 50 เช่นกันแต่จำกัดจำนวนไม่เกิน 2,000 คน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้นั้นมันเป็นเฉพาะพื้นที่ที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อยเท่านั้นเอง หรือเรียกว่าเป็นพื้นที่ Tier 1 ขณะที่พื้นที่ระดับ Tier 2 ก็จะได้สิทธิ์ในการเข้าชมลดหลั่นกันลงไปอีกครึ่งหนึ่ง

ส่วนพื้นที่ใดที่ตกอยู่ในระดับ Tier 3 นั้นยังคงไม่อนุญาตให้คอกีฬาได้เข้าชมได้ดังเดิม หลังจากที่ประกาศใช้ในช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างหนักเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้แฟนบอลพรีเมียร์ลีกบางรายยังคงต้องทำใจทนเชียร์ทีมโปรดผ่านทางหน้าจอไปก่อน เนื่องจากทุกทีมในพรีเมียร์ลีกยังได้ไม่รับไฟเขียวจากทางรัฐบาลของเมืองผู้ดีเสียทั้งหมดทีเดียว
แม้ว่านี่จะจัดได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับแฟนบอลพรีเมียร์ลีกก็ว่าได้ แต่หากลองมองเข้าไปลึก ๆ ถึงพื้นที่เสี่ยงระบาดของโควิด-19 แล้วนั้น สุดท้ายนับไปนับมาได้เพียงสองทีมในพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่ได้รับการอนุญาตให้แฟนบอลเข้าไปเชียร์ในสนามได้ไม่เกิน 4,000 คน ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่สองทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก และหวยก็ไปออกที่เซาแธมป์ตันและไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนนั่นเอง

ขณะที่คอบอลของทีมรักในพรีเมียร์ลีกที่อยู่พื้นที่ระดับ Tier 2 ก็จะได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสบรรยากาศที่ห่างเหินมานานของเวทีพรีเมียร์ลีกกันเสียทีที่จำนวนไม่เกิน 2,000 คน โดยประกอบไปด้วยเชลซี, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส, นิวคาสเซิ่ล, คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้ และฟูแล่ม