นับตั้งแต่ที่ “เดอะ สเปเชียลวัน” โชเซ มูรินโญ่ ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลังจากบุกไปแพ้ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลไป 1-3 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2018 ทำให้ มูรินโญ่ ต้องตกงานอยู่นานพอสมควร จนกระทั่งได้กลับมาคุมทีมอีกครั้งกับทีมไก่เดือยทอง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2019 ผ่านมา โดยเข้ามาแทนที่เมาริซิโอ โปเซตติโน่ ที่ถูกไล่ออกไป และเมื่อมูรินโญ่ เข้าคุมทีมนัดแรกก็สามารถเอาชนะทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 เป็นการยุติสถิติทีมสเปอร์สที่ไม่ชนะมา 12 เกมติดได้สำเร็จ จากนั้นเป็นช่วงเวลาของ
มูรินโญ่ โชว์ที่เขาได้เริ่มสร้างชีวิตไก่เดือยทอง 1 ปีเพื่อกลับมาลุ้นแชมป์อีกครา

แม้ว่าทีมสเปอร์สของมูรินโญ่จะประเดิมสนามในนัดแรกด้วยความพ่ายแพ้ทีมเอฟเวอร์ตัน แต่มูรินโญ่ ยอดกุนซือชาวโปรตุกีสคนนี้ได้กลับมาเป็นคนเดิมเป็น“มูรินโญ่โชว์” อีกคราด้วยการปลุกลูกทีมให้ฮึดสู้กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยไม่แพ้ทีมใดมา 8 นัดรวดโดยล่าสุดชนะมา 4 นัดรวดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการพาทีมบุกไปถล่มทีมปีศาจแดง อดีตทีมที่เคยไล่เขาออกแบบสะใจถึง 6-1และนัดล่าสุด พาทีมเปิดรังเหย้า ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส สเตเดียม เอาชนะทีมเต็งแชมป์อย่าง ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี ไป 2-0 ทำให้ทีมเก็บคะแนนได้ถึง 20 แต้มจาก 9 นัด ขึ้นนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จและเป็นการนำจ่าฝูงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีของทีม นับตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2014 โน่น
หลังจบเกมกับทีมเรือใบสีฟ้า ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์มูรินโญ่เกี่ยวกับชัยชนะของทีมแม้ว่าจะตกเป็นรองในการครองบอลตลอดเกม ผู้สื่อข่าวบอกว่า “ทีมแมนฯ ซิตี้ครองบอล 90 นาทีได้มากกว่า 80%”

และมูรินโญ่ ตอบกลับไปว่า “ทีมซิตี้ได้เก็บบอลกลับบ้านไปแต่ทีมของผมได้เก็บ 3 คะแนนกลับบ้านไป” และนี่เป็นมูรินโญ่โชว์ฝึปากกล้าอีกครา ไม่รู้ว่าจะได้ครองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้นานแค่ไหน แต่ต้องยอมรับว่าทีมสเปอร์ส ของมูรินโญ่มีโอกาสลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวแน่ ทีมอื่น ๆ ต้องจับตาให้ดี